ข้อดีของ #ทีมไม่ใส่กางเกงใน

            เรามาดูความรู้สึกของทีมไม่ใส่กางเกงในกัน ว่าเพราะอะไรที่ทำให้คุณผู้ชายหลายคนเข้าสู่วงการไม่ใส่กางเกงในกัน

  1. รู้สึกสบายกว่า  เพราะอาจเคยมีประสบการณ์ไม่ดี เคยใส่กางเกงในแล้วอึดอัด เคลื่อนไหวไม่สะดวก
  2. ใส่แล้วคัน  ผู้ชายหลายท่านมักประสบปัญหาผื่นคัน จากการใส่กางเกงใน ทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณช่วงง่ามขาหนีบ ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดได้หลายปัจจัย เช่น เกิดจากเนื้อผ้า เกิดจากการทำความสะอาดกางเกงในไม่สะอาด เกิดจากอาการแพ้เหงื่อ เป็นต้น
  3. ใส่แล้วรัดขาหนีบ  ส่วนมากมักจะเกิดกับคนที่มีน้ำหนักตัวมาก ทำให้บริเวณง่ามขาหนีบเกิดการเสียดสีกันจนเกิดบาดแผล ต้องบอกเลยว่าทรมานมาก ทำให้เข็ดขยาดกับการใส่กางเกงในไปเลย
  4. เป็นคนเหงื่อออกเยอะ  ทำให้มีความรู้สึกว่า ถ้ายิ่งใส่กางเกงในจะยิ่งทำให้เหงื่อระบายได้ไม่ดี แล้วยังมีกลิ่นอับใต้ร่มผ้าอีกด้วย ทำให้ขาดความมั่นใจ เลยเลือกไม่ใส่กางเกงในดีกว่า

           

ข้อดีของ #ทีมใส่กางเกงใน

            ถึงตาทีมใส่กางเกงในบ้างแล้ว มาดูกันว่าข้อดีของการใส่กางเกงในมีอะไรบ้าง

  1. ช่วยจัดระเบียบอวัยวะตรงนั้นให้อยู่เป็นระเบียบเป็นที่เป็นทางมากขึ้น
  2. กางเกงในช่วยพรางอวัยวะส่วนนั้นได้
  3. รู้สึกปลอดภัย ด้วยความเคยชินของคนที่ติดการใส่กางเกงใน จะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจถ้าไม่ได้ใส่จะรู้สึกโล่ง ๆ
  4. ช่วยลดการเสียดสีระหว่างขาหนีบกับกางเกง ด้วยความที่ผ้าของกางเกงในมีเนื้อที่นุ่ม สามารถเป็นเกราะป้องกันการเสียดสีระหว่างขาหนีบกับกางเกง ถ้าจะให้ดีต้องเป็นกางเกงในทรงทรังค์

 

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งความเชื่อที่ทำให้หลายคนอยู่ในทีมใส่กางเกงใน นั่นก็คือความเชื่อว่า ถ้าไม่ใส่กางเกงในจะทำให้เป็นโรคไส้เลื่อน ความเชื่อนี้ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะไปอยู่ทีมไม่ใส่กางเกงในกันเลยทีเดียว

 

ไม่ใส่กางเกงในแล้วจะเป็นไส้เลื่อน

มีใครเคยได้ยินไหมว่า ถ้าไม่ใส่กางเกงในจะทำให้เป็นโรคไส้เลื่อน ผู้ชายหลายคนเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างแหละ เลยเลือกที่จะใส่กางเกงในดีกว่า เพราะกลัวจะเป็นไส้เลื่อน แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้วโรคไส้เลื่อนเป็นยังไง?

โรคไส้เลื่อน คือโรคที่เกิดจากลำไส้เคลื่อนตัวออกจากจุดเดิมจนกลายเป็นก้อน โดยสามารถเกิดขึ้นได้หลายที่ เช่น บริเวณขาหนีบ บริเวณสะดือ โดยจะรู้สึกว่ามีก้อนตุง ๆ และมีอาการปวดเมื่อก้มตัวหรือยกของ ซึ่งโรคไส้เลื่อนไม่ได้เกิดจากการที่คุณผู้ชายไม่ใส่กางเกงใน แต่เกิดจากผนังช่องท้องที่ไม่แข็งแรง กล้ามเนื้อหน้าท้องไม่แข็งแรง และนี้ยังสามารถเกิดจากผลกระทบจากอุบัติเหตุ หรือการผ่าตัดได้อีกด้วย

แล้วทำไมคนถึงเข้าใจผิดว่าการไม่ใส่กางเกงในถึงเป็นไส้เลื่อน? ก็เพราะว่าคนที่เป็นไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ คิดไปเองว่าก้อนตุง ๆ ของอาการไส้เลื่อน เกิดจากขอบกางเกงในเสียดสีกันทำให้เป็นไส้เลื่อน

 

ไม่ควรใส่กางเกงในตลอด 24 ชั่วโมง

            ใครที่ติดการใส่กางเกงในตลอดเวลานี่ไม่ได้เลย เพราะการใส่กางเกงในไว้ตลอดก็ไม่ได้เป็นข้อดีเสมอไป การใส่กางเกงในไว้ตลอด โดยที่ไม่ให้อวัยวะส่วนนั้นได้ออกมาหายใจบ้าง ทำให้เกิดความอับชื้น จนเกิดเป็นกลิ่นอับใต้ร่มผ้าได้ ซึ่งวิธีการแก้ก็คือควรให้อวัยวะตรงนั้นได้ระบายอากาศบ้าง ด้วยการเลือกที่จะไม่ใส่กางเกงในตอนนอน แต่ก็ต้องระวังด้วย เพราะอวัยวะส่วนนั้นก็บอบบางแพ้ง่ายเหมือนกัน

 

 

สรุปแล้วควรอยู่ทีมไหนระหว่าง #ทีมใส่กางเกงใน หรือ #ทีมไม่ใส่กางเกงใน

            ทั้งการใส่กางเกงในและไม่ใส่กางเกงใน ก็ไม่ได้มีข้อชี้ชัดว่าแบบไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า แต่ถ้าใครที่เคยกังวลเรื่องไม่ใส่กางเกงในแล้วทำให้เป็นไส้เลื่อน เมื่อได้อ่านบทความนี้จบแล้วก็สบายใจได้ เพราะว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะการไม่ใส่กางเกงในไม่ได้ทำให้เป็นไส้เลื่อนแต่อย่างใด ถ้าเลือกไม่ได้ว่าจะอยู่ทีมไหน ก็เลือกเป็นทีมสายกลางก็ได้ ใส่บ้างไม่ใส่บ้าง ก็สบายดีเหมือนกัน

พออ่านถึงตรงนี้แล้ว ก็คงมีการเปลี่ยนทีมเกิดขึ้นกันบ้างแหละ สำหรับใครที่เป็น #ทีมไม่ใส่กางเกงใน บอกเลยว่าต้องลองกางเกงในรุ่นขายดีที่สุดของเรา ROSSO SEAMLESS ที่ทำให้คุณรู้สึกสบายเหมือนไม่ใส่กางเกงใน เพราะเป็นรุ่นที่ไม่มีตะเข็บ ไม่มีรอยต่อมากวนใจ ทอด้วยเทคโนโลยี 4 Way Stretch ทำให้เนื้อผ้านุ่ม ยืดหยุ่นได้ดี กระชับ แต่ไม่รั้ง คนต้นขาใหญ่ มีพุง ก็ใส่ได้สบายหายห่วง ไม่มีรัดให้ต้องอึดอัด แถมระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ใส่สบาย ไม่ระคายเคือง ได้ลองแล้วอาจเปลี่ยนใจมาเข้า #ทีมใส่กางเกงใน ช้อปเลยที่ https://www.rosso.co.th/mar-ts-30040.html